แม้ว่า ระบบไฮดรอลิกส์ (Hydraulic System) จะขึ้นชื่อเรื่องการให้พละกำลังมหาศาลและความแม่นยำสูง แต่ในโลกของวิศวกรรม "ไม่มีระบบใดที่สมบูรณ์แบบที่สุด" ในบางหน้างาน การเลือกใช้ไฮดรอลิกส์อาจกลายเป็นภาระมากกว่าตัวช่วย
วันนี้เราจะมาเช็กลิสต์กันว่า งานลักษณะไหนที่ไม่ควรใช้ไฮดรอลิกส์ และทำไมการเลือกใช้ระบบลม (Pneumatic) หรือระบบไฟฟ้า (Electric Drive) อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
1. งานที่เน้นความสะอาดระดับสูง (Clean Room)
อุตสาหกรรมอาหาร ยา หรือการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คือศัตรูตัวฉกาจของไฮดรอลิกส์ เนื่องจากระบบนี้ขับเคลื่อนด้วย น้ำมันไฮดรอลิก ซึ่งมีโอกาสเกิดการรั่วซึม (Leakage) ได้เสมอ หากมีการปนเปื้อนเพียงนิดเดียวอาจทำให้สินค้าทั้งล็อตเสียหายทันที
2. พื้นที่เสี่ยงต่ออัคคีภัยหรือความร้อนสูง
น้ำมันไฮดรอลิกทั่วไปมีคุณสมบัติไวไฟ หากสายไฮดรอลิกเกิดแตกในบริเวณที่มีประกายไฟหรือเตาหลอมความร้อนสูง อาจก่อให้เกิดอัคคีภัยร้ายแรงได้ แม้จะมีน้ำมันชนิดพิเศษที่ไม่ติดไฟ แต่ก็มีราคาสูงและดูแลรักษายากกว่าปกติ
3. งานที่ต้องการความเร็วในการเคลื่อนที่สูง
น้ำมันมีความหนืดและน้ำหนักมากกว่าอากาศ หากเปรียบเทียบกับ ระบบนิวเมติกส์ (Pneumatic) ไฮดรอลิกส์จะเคลื่อนที่ได้ช้ากว่ามาก หากงานของคุณคือการหยิบจับชิ้นส่วนเล็กๆ ด้วยความเร็วสูง ระบบไฟฟ้าหรือลมจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
4. งานที่ต้องเคลื่อนย้ายอุปกรณ์บ่อยครั้ง
ชุดต้นกำลัง (Power Unit) ของไฮดรอลิกส์มีขนาดใหญ่และหนัก ประกอบด้วยถังน้ำมัน ปั๊ม และวาล์วควบคุมจำนวนมาก หากหน้างานต้องการความคล่องตัว หรือต้องเคลื่อนย้ายเครื่องจักรไปมาบ่อยๆ ระบบไฮดรอลิกส์จะกลายเป็นข้อจำกัดด้านพื้นที่และน้ำหนักทันที
5. งานที่เน้นความเงียบในพื้นที่ทำงาน
เสียงการทำงานของปั๊มไฮดรอลิกมักมีความดังต่อเนื่อง หากเป็นการทำงานในห้องปฏิบัติการหรือพื้นที่ที่จำกัดเสียงรบกวน การใช้ Electric Actuator จะทำงานได้เงียบและสะอาดกว่ามาก
สรุปเลือกใช้ให้ถูกงาน
ก่อนตัดสินใจติดตั้งระบบไฮดรอลิกส์ ควรพิจารณาจากสภาพแวดล้อมและความต้องการของชิ้นงานเป็นหลัก หากงานนั้นเน้นความสะอาด ความเร็วสูง หรือความปลอดภัยจากอัคคีภัย การมองหาทางเลือกอื่นอาจช่วยลดต้นทุนการซ่อมบำรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ในระยะยาว
งานไฮดรอลิกส์, ข้อเสียไฮดรอลิกส์, ระบบไฮดรอลิกส์, Hydraulic System, อุตสาหกรรม, ข้อควรระวังในการใช้ไฮดรอลิกส์
