ปริมาตร ออกซิเจน ประมาณ 21 % โดยปริมาตร และส่วนประกอบอื่น ๆ ดังนี้ คาร์บอนไดออกไซด์
(Carbon-dioxide), อาร์กอน (argon) , ไฮดรอเจน (hydrogen) , นีออน (neon) , ฮีเลียม (helium) ,
ครีพตัน (krypton) และส่วนประกอบของไอน้ำ อากาศประกอบด้วยอณูเล็ก ๆ มีอะตอมเชื่องโยงกัน
เป็นคู่ ๆ คล้ายลูกบอล อากาศ 1 cm3 ประกอบด้วย 27 x 10(ยกกำลัง)18 อณู
กฎของปาสคาล (กฎส่งผ่านความดัน)
B. Pascal(ชาวฝรั่งเศส ระหว่างปี ค.ศ. 1623-1662) ได้ทำการทดลองพิสูจน์กฎปาสคาลซึ่ง
เกี่ยวกับการส่งผ่านความดันสถิต หรือความดันที่ไม่เคลื่อนที่ (Static pressure) กฎนี้กล่าวว่า
“ความดันที่กระทำต่อส่วนหนึ่งส่วนใดของของไหลที่อยู่นิ่งในภาชนะปิด จะกระทำต่อทุกส่วน
ของภาชนะในแนวตั้งฉาก”
กฎของปาสคาล |
ในกรณีที่ลูกสูบมีพื้นที่หน้าตัด A1 (cm2 ) และ A2 (cm2 ) ถ้ามีแรง F1 หรือ
น้ำหนัก W1 (kgf) กระทำบนลูกสูบ A1 แล้วจะเกิดแรงถ่ายเท W2 (kgf) หรือ F2 ขึ้นที่ลูกสูบซึ่งมี
พื้นที่หน้าตัด A2 ดังแสดงในรูป
กฎของบอยล์
R. Boyle (ชาวอังกฤษ ระหว่างปี ค.ศ. 1627-1691) เป็นผู้คิดค้นกฎของบอยล์โดยกล่าวว่า
“ถ้ากดลูกสูบในกระบอกซึ่งมีก๊าซบรรจุอยู่ภายใน ปริมาตรก๊าซจะลดลงในขณะที่ความดัน
ก๊าซเพิ่มขึ้น ” กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า “ ณ อุณหภูมิคงที่ ปริมาณก๊าซจะเปลี่ยนแปลงเป็นอัตราส่วนผกผัน
กับความดันก๊าซนั้นดังแสดงในรูป
กฏของบอยล์ |
กฎของชาร์ลส์
กฎของชาร์ลส์กล่าวว่า “ค่าความดันอากาศคงที่ค่าหนึ่ง ปริมาตรของอากาศจำนวนหนึ่งจะ
แปรผันเป็นสัดส่วนกับอุณหภูมิสัมบูรณ์ของอากาศ” หมายความว่า เมื่ออากาศจำนวนหนึ่งซึ่งมี
ปริมาตร V1 และอุณหภูมิ T1 ถูกทำให้ร้อนขึ้นหรือถูกทำให้เย็นลงที่อุณหภูมิ T2 ภายใต้ความดันคงที่
ปริมาตรอากาศจะเปลี่ยนแปลงเป็น V2 ตามความสัมพันธ์ดังแสดงในรูป
กฎของชาร์ลส์ |
fluid power /
fluid power automation /
fluid power hydraulics and pneumatics /
fluid power journal /
fluid power magazine /
fluid power news /
fluid power society /
how do hydraulic and pneumatic systems work /
how do pneumatic systems work /
how do pneumatics work /
how pneumatics work /
industrial fluid power /